ย้อนคำทำนายหมอปลาย ไฟไหม้ผับชลบุรี ด้านเจ้าตัวขออุทิศส่วนกุศลให้

ย้อนคำทำนายหมอปลาย ไฟไหม้ผับชลบุรี ด้านเจ้าตัวขออุทิศส่วนกุศลให้

ย้อนคำทำนายหมอปลาย หลังเคยทำนายก่อนบวชว่าจะเกิดเหตุไฟไหม้ ตรงกับ ไฟไหม้ผับชลบุรี ด้านเจ้าตัวขออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต จากกรณีไฟไหม้ผับชลบุรี หรือ ไฟไหม้เมาท์เท่นบีผับ ผับในอำเภอสัตตาหีบ จ.ชลบุรี และมีผู้เสียชีวิต 15 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 40 รายไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดมีการหยิบยกเปรียบเทียบ คำทำนายหมอปลายพรายกระซิบ ไฟไหม้ผับชลบุรี ว่าเคยกล่าวทำนายเรื่องนี้เอาไว้

ล่าสุดหมอปลายหรือ ภิกษุณีสุทัสสนา 

ได้ไลฟ์สดผ่านทางติ๊กต๊อก ว่า “เพิ่งได้ทราบเรื่องจากโยมทางเมืองไทย ส่งเหตุการณ์มาให้ดูว่า มีคลิปที่เคยทำนายเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นโยม และ เหตุการณ์นี้สูญเสียค่อนข้างเยอะ ประเทศของเราก็มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องไฟหลายครั้งอยู่พอสมควร โดยขอแสดงความเสียใจ และ ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้

บุคคลที่เสียชีวิต และ บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บ ขอให้ร่างกายหายเร็วๆ ฟื้นฟูเร็วๆ

ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ อย่าไปโทษสิ่งที่มองไม่เห็นแล้วกัน ฉะนั้นเราป้องกันทุกอย่างได้ด้วยความไม่ประมาท พอดีได้พูดคุยกับภิกษุณีรูปอื่นว่า ในวันพระนี้พอดีเมืองไทยเราเกิดเหตุนี้เกิดขึ้น และตัวเราเองได้เคยพูดทำนายเอาไว้ ก็จะขอสวดมนต์และอุทิศบุญใหญ่ให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับผู้ที่สูญเสีย ขอฝากไว้ว่าทุกคนอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท เราไม่ควรที่จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกถ้าเราใชัชีวิตไม่ประมาท ทำตามกฏหมาย ทำตามกฏทุกอย่างที่ทางรัฐสร้างมา สาธุ”

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ หมอปลายทำนายว่า “สิ่งที่กลัวคือกลัวเรื่องน้ำ ไม่รู้น้ำอะไร จะมีน้ำกับไฟมาอีกแล้ว ไฟน่าจะเป็นที่เล็กๆ ที่ควันโขมงได้พอสมควรหรือโรงงาน แต่ไม่ใช่พื้นที่ป่า เลยมองว่าเหมือนที่เล็ก ช่วงนั้นก็อาจจะเยอะหน่อย ส่วนเรื่องน้ำน่าจะเป็นน้ำจากฝน และน้ำที่เก็บไม่ดี น้ำทะลักน้ำนองจะมาอีก ปัญหาเดิมๆ เลย” ซึ่งตรงกับเหตุไฟไหม้ผับชลบุรี

ชลบุรี เผยรายละเอียด ผู้ได้รับบาดเจ็บไฟไหม้ผับชลบุรีล่าสุด อาการหนัก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 20 ราย ยอดรวมบาดเจ็บ 40 ราย สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี รายงานรายละเอียด ผู้ได้รับบาดเจ็บไฟไหม้ผับชลบุรีล่าสุด หรือ ผับเมาท์เท่นบี ผับริมถนนสายสุขุมวิทบางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 01.00 น. ที่มีผู้เสียชีวิต 15 ศพนั้น และได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย

จากการตรวจสอบรายละเอียดผู้รับบาดเจ็บเหตุไฟไหม้ผับชลบุรีพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสีแดง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 20 ราย ผู้ป่วยสีเหลือง (อาการปานกลาง) 11 คน และผู้ป่วยสีเขียว 9 ราย โดยมีผู้ป่วยสีเหลืองอาการหนักขึ้นและปรับเป็นกลุ่มสีแดง 5 ราย และผู้ป่วยสีแดงอาการทุเลาลงมาอยู่ในกลุ่มสีเหลือง 1 ราย

สำหรับผู้บาดเจ็บที่เพิ่มขึ้น 2 ราย ไปรักษาแบบผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 1 ราย และโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 อีก 1 ราย แล้วมาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือที่ศูนย์ฯ ในภายหลัง

ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรี, สำนักงาน ปภ. ชลบุรี, เทศบาลเมืองสัตหีบ ได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ผับชลบุรี เพื่อจ่ายเงินเยียวยาต่อไป

หุ้นชินคอร์ป คืออะไร หลังทักษิณชนะคดี รอดภาษีหมื่นล้าน

รู้จัก หุ้นชินคอร์ป คืออะไร ย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์หุ้นชินครอป จุดเริ่มต้นภาษีหมื่นล้านของ ทักษิณ ชินวัตร ก่อนชนะคดีเมื่อศาลยกคำร้องในปี 2565

หุ้นชินคอร์ป คืออะไร หลายคนคงกำลังตั้งข้อสงสัยจากกรณีล่าสุดที่ศาลยกคำร้องการประเมินเก็บภาษีมูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร วันนี้ทีมงานเดอะไทเกอร์จึงอยากถือโอกาส พาทุกคนไปทำความเข้าใจกับหุ้นชินคอร์ป พร้อมลำดับเหตุการณ์จุดเริ่มต้นของการขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี และภาษีมูลค่านับหมื่นล้านบาท ใครพร้อมแล้ว ไปทำความเข้าใจด้วยกันได้เลย

หุ้นชินคอร์ป คือหุ้นของกลุ่ม บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์เป็นผู้ครอบครองหลักจนถึงปี 2549 ก่อนที่จะมีการซื้อขายหุ้นเกิดขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมื่อบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ตัดสินใจขายหุ้นจำนวน 1.48 พันล้านหุ้นให้กับบริษัทต่างชาติ

สำหรับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้นชินคอร์ปเมื่อปี 2549 ก็คือ บริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ (พีทีอี) จำกัด ซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ และได้มีการดำเนินการซื้อขายผ่านทาง บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ ทำให้การซื้อขายหุ้นชินคอร์ปในครั้งนั้น มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นสูงถึง 73,271,200,910 บาท นับเป็นการขายหุ้นครั้งใหญ่ที่สุดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเลยก็ว่าได้

การขายหุ้นชินคอร์ปของตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ระดับประเทศ เกี่ยวกับความน่าเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรีประเทศไทย หรือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่า หุ้นคอร์ปชิน อาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อน นำไปสู่การร่ำรวยผิดปกติของนายกรัฐมนตรี

หลังจากที่ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปได้ไม่นาน ในปี 2553 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ได้ทำการตัดสินยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 46,373 ล้านบาทของตระกูลชินวัตร ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งคดีดังกล่าวได้ดำเนินการเรื่อยมาจนกระทั่งยุติเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป